QR Code

LINE Official

@interhome

หน้าหลัก ฝากขายบ้าน
ฝากขายที่ดินกับเรา
ติดต่อ ฝากซิ้อ
ฝากขายบ้าน ที่ดิน
ทีมงานมืออาชีพ

อสังหาฯต่ำ5ล.ถูกรีเจ็คหนัก40%



         อสังหาฯต่ำกว่า 5 ล้าน ถูกแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อหนักถึง 40% พร้อมปรับวิธีขายดึงกำลังซื้อเพิ่มสภาพคล่อง ด้านแบงก์ชาติยันยังไม่คลายเกณฑ์แอลทีวี เผยไตรมาส 2 สินเชื่อบ้านขยายตัวถึง 4.4%

          นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาดส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างซบเซา แต่พอผ่านช่วงครึ่งปีแรกไปแล้วพบว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยลูกค้าเริ่มที่จะเข้ามาซื้อหรือมาดูโครงการมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่มีทิศทางดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการก็จะต้องบริหารจัดการสต๊อกให้ดีด้วย โดยในส่วนของบริษัทนั้นจะสต๊อกบ้านพร้อมอยู่ลดลงจากเดิมประมาณ 50% เพื่อบริหารต้นทุนและรักษาสภาพคล่องของบริษัทเอาไว้ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปัจจุบันพบว่าบ้านราคาบ้านต่ำกว่า 5 ล้านบาท มียอดรีเจ็คหรือถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อสูงมากคือประมาณ 35-40% เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพราะไม่อยากเสี่ยงต่อหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยในส่วนของผู้ที่กู้ไม่ผ่านนั้นทางบริษัทจะมีการคืนเงินดาวน์ให้ แต่ขอเก็บเงินจองเอาไว้ ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ ขณะที่ยอดขายครึ่งปีแรกลดไปประมาณ 50%

          นายสุนทรกล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทต้องปรับตัว โดยจะหันไปพัฒนาบ้านที่ราคาแพงขึ้นคือประมาณ 5-10 ล้านบาทต่อยูนิต เนื่องจากกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่ แต่ยอดการปฏิเสธสินเชื่อก็ยังมีอยู่คือประมาณ 20-25% แต่ก็ดีกว่ากลุ่มแรก โดยในช่วงปลายปีนี้จะเปิดโครงการบ้านบ้านราคาสูงกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิต 1 โครงการย่านรังสิตนครนายก มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนอาคารสูงมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ในย่านพระราม 4 นั้น เดิมตั้งเป้าจะเปิดช่วงปลายปี แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าจะเลื่อนไปเปิดโครงการในปีหน้าแทน ส่วนโครงการเดิมย่านสาทร ปัจจุบันก่อสร้างเกือบแล้วเสร็จจะสามารถโอนได้ในช่วงปลายปีนี้

          นางนวอร เดชสุวรรณ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และจากข้อมูลของ ธปท. พบว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2 ปีนี้ ยังขยายตัวที่ 4.4% สูงกว่าไตรมาสก่อน แม้จะอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อบ้านหลังแรก สะท้อนว่ามาตรการแอลทีวี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ซื้อบ้านและสถาบันการเงินยังมีการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มเติม ดังนั้นมองว่าหากผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระ รวมทั้งมาตรการแอลทีวียังช่วยรองรับผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และระบบเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากช่วยชะลอความต้องการเทียมและปริมาณที่อยู่อาศัยส่วนเกิน

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

วันที่ : 11 กันยายน 2563

แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจ

บนช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ

Share On Line

คัดลอกบทความ